การวิจัยโดยมหาวิทยาลัยในสต็อกโฮล์มสืบสวนการแต่งงานของผู้หญิงไทยและผู้ชายสวีเดน
การวิจัยครั้งใหม่และครอบคลุมเป็นวงกว้างในระดับที่เพิ่มขึ้นของจำนวนผู้หญิงไทยที่อาศัยอยู่ในสวีเดนในฐานะของคู่ชีวิตของผู้ชายสวีเดนนั้นถูกคาดหวังว่าจะได้รับการเผยแพร่ในเร็วๆ นี้ โดยหนึ่งในมหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศสวีเดน
รายงานชิ้นนี้คาดหวังให้แสดงถึงความสัมพันธ์ไทย-สวีเดนที่อยู่เบื้องหลังชุมชนผู้หญิงไทยในสวีเดนที่กำลังเติบโตขึ้น ว่าไม่ได้เป็นไปตามรูปแบบที่มีการนำเสนอผ่านสื่ออย่างบ่อยครั้ง ความสัมพันธ์ส่วนใหญ่
จะดำเนินไปอย่างราบรื่นและก่อเป็นพื้นฐานของชีวิตการแต่งงานที่มีความสุข
อย่างไรก็ตาม การค้นพบเบื้องต้นจากการวิจัยกลับแสดงผลตรงข้ามอย่างชัดเจนกับรายงานอันน่าตกใจของการท่องเที่ยวทางเพศระหว่างประเทศสวีเดนและประเทศไทยที่เพิ่มสูงขึ้น
ปรากฏว่ารายงานเช่นนี้ก่อให้เกิดความวิตกกังวลในกลุ่มคู่รักชาวไทยและสวีเดนที่พำนักอยู่ในประเทศสวีเดน ผู้ซึ่งตอบรับการวิจัยครอบคลุม และยิ่งเสริมภาพอันสวยงามของกลุ่มชุมชนชาวสวีเดน-ไทย
ที่กำลังเติบโตได้เป็นอย่างดี
การวิจัยที่อยู่ภายใต้การดำเนินงานโดยนักวิจัยชาวสวีเดนในสต็อกโฮล์มนั้น แสดงตัวเลขของจำนวนผู้หญิงไทยที่แต่งงานกับผู้ชายชาวสวีเดนในช่วง 8 ปีที่ผ่านมานี้ว่ามีการเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลถึง 300%
แม้ว่าภาพของความสัมพันธ์ไทย-สวีเดนนั้นจะค่อนข้างปรากฏออกมาในแง่บวก, สบายๆ และมีความสุข แต่เรื่องนี้ได้กลายเป็นหัวข้ออันร้อนแรงในการโต้เถียงวุ่นวายเพื่อดิ้นรนฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ของกลุ่มสิทธิสตรี
ในสวีเดนและปฏิกิริยาตอบรับอันรุนแรงจากผู้ชายชาวสวีเดนบางรายที่มีความรู้สึกว่าเรื่องนี้มากเกินจะรับได้อีกต่อไปแล้ว
ความรุ่งเรืองของกลุ่มสิทธิสตรีในสวีเดน
ประเทศสวีเดนได้รับการชื่นชมจากนานาประเทศในด้านนโยบายความเสมอภาคต่อโอกาสสำหรับสตรีและผู้เยาว์ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ กลุ่มสิทธิสตรีหลายกลุ่มมีอิทธิพลเป็นอย่างมากต่อรัฐบาล
และประเทศสวีเดนได้มีการประกาศใช้กฎหมายแรงงานฉบับใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มการควบคุมพฤติกรรมความรุนแรงและไม่เป็นธรรมต่อผู้หญิง, การข่มขืน และการค้าประเวณี การเริ่มต้นนี้กำลังได้รับการศึกษา
อย่างกระตือรือร้น (หรือแม้แต่การยอมรับนำมาใช้) โดยประเทศอื่นๆ และได้รับการยกย่องจากกลุ่มของผู้หญิงมากมายในฐานะของการเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับการปฏิบัติในอนาคต
แต่ผู้ชายบางรายในสวีเดนเองกลับรู้สึกว่าความเคลื่อนไหวของกลุ่มสิทธิสตรีนั้นทำเกินขอบเขตมากไป
เว็บไซต์และบล็อกต่อต้านกลุ่มสิทธิสตรีได้ปรากฏขึ้นในประเทศสวีเดนเช่นเดียวกับประเทศอื่นในแถบสแกนดิเนเวีย บล็อกเกอร์รายหนึ่งรายงานจากสวีเดนว่ามีการเปิดวิดีโอกลุ่มสิทธิสตรีให้นักเรียนมัธยมปลาย
อายุต่ำกว่า 18 ปีชม โดยได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสวีเดน ละครหรือหนังสั้นเรื่องนี้แสดงถึงกลุ่มผู้หญิงกลุ่มหนึ่งที่กำลังถ่ายภาพของผู้อาบแดดชายวัยกลางคนและจัดปาร์ตี้เต้นรำ
ผู้กำกับหนังสั้นเรื่องนี้อ้างว่ามีความตั้งใจให้ออกมาเป็น การโต้เถียงด้านความอุปถัมภ์ เกี่ยวกับระเบียบวาระของกลุ่มสิทธิสตรี
รัฐบาลสวีเดนหลายชุดต่อเนื่องกันได้ทำการแนะนำกฎหมายแรงงานอันปรับปรุงใหม่และสร้างใหม่ขึ้นมาในฐานะส่วนหนึ่งของระเบียบวาระของสิทธิสตรี หัวใจสำคัญของกฎหมายแรงงานฉบับนี้ ยกตัวอย่างเช่น
ทำให้การที่ผู้ชายซื้อบริการทางเพศนั้นเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และยังขยายความหมายของการข่มขืนให้ครอบคลุมกว้างขึ้น นี่เกิดขึ้นในประเทศที่ถูกสร้างให้มีชื่อเสียงจากผมบลอนด์แบบสวีเดน
และการนวดแบบสวีเดนในช่วงยุค 1970s เมื่อครั้งที่ประเทศสวีเดนยังดูว่าเป็นสังคมที่ใจกว้างและเปิดเผย
ปัจจุบันนี้กลุ่มสิทธิสตรีสุดขั้วบางกลุ่มในประเทศสวีเดนได้มีการเรียกร้องให้รัฐบาลเพิ่มความเข้มงวดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมด้วยการเพิ่ม ภาษีเพศชาย ต่อผู้ชายทุกคนเพื่อชดเชยต่อการ คุกคาม
ที่มีมายาวนานกว่าหลายพันปี, ความล้มเหลวของการแต่งงานและชื่อเฉพาะทางเพศ ในขณะที่ชาวสวีเดนทั่วไปส่วนมากปฏิเสธการยอมรับข้อเรียกร้องเหล่านี้ แต่ก็ยังคงมีความเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง
ของกลุ่มสิทธิสตรีในประเทศสวีเดนและในแถบสแกนดิเนเวียโดยทั่วไป
ในยุคปัจจุบัน ความกดดันจากกลุ่มของผู้หญิงในสวีเดนประสบความสำเร็จในการกระตุ้นให้รัฐบาลสวีเดนดำเนินการสืบสวนจำนวนของผู้หญิงไทยที่เดินทางเข้าสวีเดน
ที่ซึ่งสงสัยว่าอาจได้รับการว่าจ้างให้ทำงานในอุตสาหกรรมทางเพศ ผู้ว่าการรัฐในสวีเดนท่านหนึ่งที่สนับสนุนสิทธิสตรียังได้เสนอให้มีการจำกัดจำนวนของผู้หญิงไทยที่เดินทางเข้าประเทศสวีเดนอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถหาข้อโต้แย้งได้ว่าผู้หญิงไทยจำนวนมากทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมการค้าบริการทางเพศ แต่ก็มีการค้นพบว่า สัดส่วนของผู้หญิงไทยที่แต่งงานกับผู้ชายสวีเดน
หรือมีความสัมพันธ์ต่อกันนั้นอาศัยอยู่ในเขตชนบทของประเทศสวีเดนในจำนวนที่เพิ่มมากขึ้น
ที่พักฉุกเฉินของผู้หญิงและความรุนแรงในครอบครัวในประเทศสวีเดน
กลุ่มของผู้หญิงในสวีเดนได้หยิบยกความกังวลใจในจำนวนตัวเลขของผู้หญิงไทยที่ต้องการความช่วยเหลือในที่พักฉุกเฉินของชุมชนว่ามีตัวเลขเพิ่มขึ้นถึง 10% ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้
กลุ่มสิทธิสตรีที่มีบทบาทเข้มแข็งในประเทศสวีเดนและประเทศอื่นในแถบสแกนดิเนเวียนั้น นับได้ว่าเกิดขึ้นมาจากการที่ประเทศได้ประสบปัญหาที่เกี่ยวเนื่องกับความรุนแรงทางร่างกายในครอบครัวหลายประการ
มาเป็นระยะเวลานาน แม้กระทั่งในตอนนี้ ถึงแม้ว่าประเทศสวีเดนและนอร์เวย์จะจัดอยู่ในกลุ่ม 10 ประเทศของโลกที่น่าอยู่ที่สุดสำหรับผู้หญิง แต่ก็ยังเป็นประเทศที่มีอัตราการเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงในครอบครัว
สูงที่สุดในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วด้วยเช่นกัน
ในปี 2009 รายงานตัวเลขของผู้หญิงที่ต้องการที่พักพิงในที่พักฉุกเฉินของสตรีมีจำนวน 552 คนซึ่งรวมถึงผู้หญิงชาวสวีเดน, รัสเซีย, ไทย รวมทั้งผู้หญิงจากประเทศในแถบตะวันออกกลาง
ในขณะที่ตอนนี้อาจมีจำนวนผู้หญิงไทยมากกว่า 30,000 คนที่แต่งงานกับผู้ชายสวีเดน แม้จะเป็นตัวเลขที่สูงมาก แต่นี่ก็ไม่ได้บ่งบอกว่าความสัมพันธ์ระหว่างผู้หญิงไทยเป็นสูตรสำเร็จของความรุนแรงทางร่างกาย
กลุ่มของผู้หญิงประท้วงกฎการออกวีซ่าสำหรับผู้ชายชาวสวีเดนและภรรยาชาวไทย
ROKS เป็นองค์กรในประเทศสวีเดนที่จัดหาที่พักฉุกเฉินให้แก่ผู้หญิง องค์กรนี้ต่อต้านกฎหมายของรัฐบาลสวีเดนในเรื่องการออกวีซ่าซึ่งคล้ายคลึงกันกับในประเทศออสเตรเลีย
ที่ซึ่งพวกเขาอนุญาตสิทธิวีซ่าครอบคลุมให้แก่ผู้หญิงไทยจำนวนมากให้เข้าอาศัยยังประเทศสวีเดนได้ แต่อิงการให้วีซ่าโดยดูจากความสัมพันธ์ที่มีกับผู้ชายชาวสวีเดนในระยะเวลา 2 ปี
ROKS โต้แย้งว่ากฎระเบียบการออกวีซ่าเช่นนี้ยิ่งวางผู้หญิงไทยไว้ในตำแหน่งที่ไม่เสมอภาคในด้านความสัมพันธ์กับผู้ชายสวีเดน และอาจถูกคุกคามได้โดยผู้ชายชาวสวีเดนที่ไม่ซื่อสัตย์
โฆษกของ ROKS ชี้ให้เห็นว่าผู้หญิงไทยที่อยู่ในความสัมพันธ์เช่นนี้จะต้องเผชิญหน้ากับการเนรเทศออกนอกประเทศหากความสัมพันธ์ของพวกเธอมีอันต้องจบลง
อภิสรา หญิงสาวจากจังหวัดขอนแก่นเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้หญิงไทยที่ประสบปัญหาเช่นนั้น ความสัมพันธ์ระหว่างเธอและสามีชาวสวีเดนจบลงหลังจากใช้ชีวิตร่วมกันเป็นเวลาแปดเดือนในสวีเดน
หลังจากสามสัปดาห์ในการพักอาศัยอยู่ที่บ้านพักฉุกเฉินสตรีและได้รับการเสนอให้สามารถพำนักอยู่ในประเทศสวีเดนต่อไปได้ภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาลสวีเดน เธอก็ตัดสินใจที่จะกลับบ้านเกิดที่ประเทศไทย
ฉันเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และในใจของฉันตอนนี้ก็เพียงแค่อยากกลับบ้าน ฉันสามารถกลับมาที่สวีเดนอีกครั้งได้ถ้าฉันต้องการ เธอกล่าว อภิสราบอกว่าความสัมพันธ์ของเธอต้องจบลง
เนื่องจากสามีนั้นอยู่ในความกดดันจากสภาวะทางการเงิน พี่สาวของเธอแต่งงานกับผู้ชายชาวสวีเดนเช่นกันและใช้ชีวิตอยู่อย่างมีความสุขในแถบชนบทของประเทศสวีเดน
อย่างไรก็ตาม แองเจล่า โบแซง โฆษกของ ROKS กล่าวว่า เธอเกรงว่าผู้หญิงไทยจำนวนมากกำลังตกอยู่ในความสัมพันธ์ที่มีความรุนแรง และผู้หญิงบางคนก็ถูก กักขังเหมือนนักโทษ ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว
เธอยังเรียกร้องให้หน่วยงานของรัฐในประเทศสวีเดนสืบสวน การนำเข้าภรรยาอย่างต่อเนื่อง และสถานการณ์เฉพาะบางประการของความสัมพันธ์เช่นนั้นด้วย ความคิดนี้ถูกปฏิเสธอย่างสิ้นเชิงโดยนายเบงท์ แอ็กเซลสัน
ผู้ซึ่งอยู่อย่างมีความสุขกับภรรยาชาวไทยในเขตชนบทของสวีเดน ทุกคนรู้กันดีอยู่ว่ากลุ่มผู้หญิงเหล่านี้เป็นกลุ่มแถวหน้าของลัทธิสตรีนิยม และพวกเขาต้องการควบคุมหรือแม้แต่กระทั่งหยุดผู้หญิงไทย
ไม่ให้เข้าประเทศสวีเดน สำหรับผมเองนั้น ผมคงไม่สามารถมีความรักได้ถ้าไม่มีภรรยาชาวไทยของผม และตอนนี้ผมก็ยังมีเพื่อนๆ อีกหลายคนที่มีภรรยาชาวไทยด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม นายเบงก์ แอ็กเซลสันก็ยอมรับว่ามีผู้หญิงชาวไทยที่ได้รับความรุนแรงจากคู่ครองชาวสวีเดนด้วย ใช่ ผมคิดว่ามันดีนะที่รัฐบาลใส่ใจที่จะดูแลเรื่องนี้
และน่าจะเก็บข้อมูลของผู้ชายที่ใช้ความรุนแรงเช่นนั้นด้วยเหมือนกัน เขายอมรับ
ถึงแม้ว่าผู้ชายชาวสวีเดนจำนวนมากที่มีภรรยาชาวไทยรวมทั้งนายเบงก์นั้นจะตั้งข้อสงสัยว่ากลุ่มของผู้หญิงเช่น ROKS และกลุ่มสิทธิสตรีอื่นๆ จะต้องการหยุดผู้หญิงไทยไม่ให้แต่งงานกับผู้ชายชาวสวีเดน
แต่ก็ไม่มีหลักฐานใดยืนยันแน่ชัดเกี่ยวกับเรื่องนี้
กลุ่มของผู้หญิง เช่น ROKS กลับดูเหมือนจะเน้นไปที่ว่า ผู้หญิงไทยควรสามารถเข้าถึงความสนับสนุนของรัฐบาลและข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิโดยชอบธรรมของพวกเธอได้เมื่อมาถึงยังประเทศสวีเดน
ผมไม่มีปัญหากับเรื่องนั้นเลย ผมแน่ใจว่า 99% ของผู้ชายชาวสวีเดนไม่มีเหตุผลในการคัดค้าน แต่ด้วยการที่ผมอยู่ในประเทศที่เมื่อคุณเป็นผู้ชาย เมื่อนั้นคุณก็คือผู้ต้องสงสัย นายแอ็กเซลสันกล่าว
สงครามระหว่างเพศในประเทศสวีเดน ศูนย์กลางในที่พักฉุกเฉินของผู้หญิง
ทัศนคติของนายเบงท์มีรากฐานมาจากการโต้เถียงกันอย่างเผ็ดร้อนที่เพิ่มขึ้นทางออนไลน์เรื่องสตรีนิยมในประเทศสวีเดนและทิศทางของประเทศนี้
เขาชี้ให้เห็นถึงวิดีโอโต้เถียงความยาวสองชั่วโมงที่มีชื่อว่า คอนสคริเกท์ ที่เชื่อมต่อที่พักฉุกเฉินของผู้หญิงที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสวีเดนเข้ากับการรุ่งเรืองชองชาวสตรีนิยมที่เป็นผู้ที่เข้าครอบครองสถาบันเหล่านี้
ตามที่ในวิดีโอดังกล่าวอ้างถึง
อย่างไรก็ตาม น่าจะต้องย้ำอีกครั้งว่า ถึงแม้ประเทศสวีเดนจะถูกมองว่าเป็นประเทศที่มีการเรียกร้องสิทธิสตรีมากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก แต่ก็มีการยอมรับว่า
ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของสวีเดนแสดงให้เห็นถึงเหตุการณ์ความรุนแรงทางร่างกายในครอบครัวในระดับสูง รวมถึงการข่มขืนที่ยังไม่มีการรายงานอย่างเป็นทางการด้วย ในขณะนี้มีกฎหมายแรงงานที่ซึ่งได้รับการนำมาใช้
เพื่อให้เกิดความง่ายขึ้นในการแจ้งและดำเนินคดีของความรุนแรงหรือการข่มขืนแล้ว
กลุ่มสิทธิมนุษยชนในช่วงหลายปีหลังมานี้ ได้ทำการเน้นไปยังความล้มเหลวของรัฐบาลสวีเดนในการฟ้องร้องดำเนินคดีการข่มขืนให้ประสบความสำเร็จ ถึงแม้ว่ารัฐบาลสวีเดนจะรับทราบและมีข้อมูลอยู่ในมือแล้วก็ตาม
คดีฟ้องร้องของผู้มีชื่อเสียงล่าสุดของจูเลียน แอสแซงยิ่งสร้างความโดดเด่นให้กับปัญหานี้มากขึ้น มีความพยายามมากขึ้นของหน่วยงานภาครัฐของสวีเดนและกลุ่มของผู้หญิงในการขยายคำจำกัดความของการข่มขืนในสวีเดน
เพื่อช่วยกระตุ้นให้ผู้หญิงในสวีเดนรู้สึกสบายใจมากขึ้นในการแจ้งพฤติกรรมใดๆ ก็ตามที่อาจจะเข้าข่ายว่าเป็นการทำความรุนแรงหรือการข่มขืน
ประเทศสวีเดนนั้นมีแม้กระทั่งพรรคการเมืองสตรีนิยมซึ่งแยกออกมาจากพรรครัฐบาลสังคมประชาธิปไตยเดิม ที่ซึ่งเป็นตัวแทนด้านกฎหมายมาตรฐานใหม่อย่างสมบูรณ์ของการเมืองแบบสตรีนิยม
ผมคิดว่าคนสวีเดนส่วนมากเกินทนกับเรื่องเหล่านี้แล้ว โดยเฉพาะพวกผู้ชาย ภรรยาคนไทยของผมไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น และผมก็รู้ว่าคนสวีเดนจำนวนมากก็จะพูดแบบเดียวกันนี้ นายเบงท์กล่าว
ผมภูมิใจมากที่พวกเราคนสวีเดนมีประเทศที่สนับสนุนความเท่าเทียมและสิทธิของสตรี แต่ผมก็ไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นอันสุดขั้วที่ผมสังเกตเห็นจากทั้งสองฝ่ายนี้
ตำนานของความยากลำบากของภรรยาชาวไทยในสวีเดน
การวิจัยที่ดำเนินการโดยสถาบันการศึกษาในสวีเดนกำลังมุ่งความสนใจไปยังจำนวนทั้งหมดของประชากรไทยที่เข้าประเทศตั้งแต่ปี 1990 จนถึง 2008 มีหลักฐานที่เห็นได้ชัดว่าตั้งแต่ปี 2004 เป็นต้นมา
จำนวนของผู้หญิงไทยที่แต่งงานหรือสร้างความสัมพันธ์กับผู้ชายชาวสวีเดนได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อัตราการเติบโตนั้นเพิ่มจาก 17% เป็น 37% การศึกษาชิ้นนี้ที่แม้จะยังไม่เสร็จสิ้นดีและยังไม่ได้รับการเผยแพร่
ก็ได้มีการค้นพบที่น่าสนใจว่า:
- ในขณะที่อายุเฉลี่ยของผู้ชายชาวสวีเดนที่แต่งงานกับผู้หญิงไทย จะมีอายุมากกว่ากัน 11 ปีโดยประมาณ
สัดส่วนขนาดใหญ่ของผู้ชายเหล่านี้แสดงว่าพวกเขามีการศึกษาในระดับสูง
- ผู้หญิงชาวไทยที่เกี่ยวข้องกับการค้าทางเพศที่แต่งงานกับผู้ชายชาวสวีเดนนั้นมีจำนวนน้อยมาก รายงานดังกล่าวแสดงว่ามีผู้หญิงไทยในประเทศไทยเพียง 0.5%เท่านั้นที่ทำงานอยู่ใน
อุตสาหกรรมการค้าประเวณีหรือการค้าทางเพศในไทย
- ผู้หญิงไทยจำนวนมากที่แต่งงานกับผู้ชายชาวสวีเดนมีการศึกษาในระดับสูง และบ่อยครั้งยังสูงกว่าคู่ชีวิตชาวสวีเดนอีกด้วย
- การสำรวจนั้นได้มีการระบุว่าผู้หญิงไทยส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่กับคู่ชีวิตชาวสวีเดนในพื้นที่เขตชนบท และผู้หญิงไทยจำนวนมากก็มาจากพื้นที่เขตชนบทเช่นกัน รายงานยังระบุด้วยว่า
พื้นที่เจ็ดถึงแปดเขตที่มีชาวสวีเดนพำนักอยู่พร้อมด้วยชุมชนผู้หญิงชาวไทยจะมีการพัฒนาในทางที่ดีเพิ่มขึ้น
- แม้ว่าจำนวนการเข้าประเทศสวีเดนของผู้หญิงชาวไทยมีมากอย่างชัดเจนตั้งแต่ปี 2004 แต่ตามจริงแล้วความนิยมนี้เริ่มมีมาตั้งแต่ในยุค 1970s และในขณะที่ 80% ของคนไทยในสวีเดนเป็นผู้ชาย
ก็ยังมีกลุ่มชุมชนผู้ชายชาวไทยในประเทศสวีเดนเช่นกัน
กฎหมายเกี่ยวเนื่องกับเพศของสวีเดนฉบับใหม่ช่วยเติมเชื้อไฟให้การท่องเที่ยวทางเพศในประเทศไทย
รายงานประจำปีล่าสุดจากรัฐบาลสวีเดนที่สร้างขึ้นเพื่อเฝ้าสังเกตผลกระทบของกฎหมายที่ทำให้การซื้อบริการทางเพศในประเทศสวีเดนเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายนั้น
ดูเหมือนจะชี้ให้เห็นว่ามันได้กลายเป็นการกระตุ้นให้เกิดการเพิ่มขึ้นของการท่องเที่ยวทางเพศ
จากผู้ชายชาวสวีเดนไปยังประเทศไทย รายงานอันน่าตกใจชิ้นนี้ชี้ให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดของจำนวนตัวเลขผู้ชายชาวสวีเดนที่รายงานว่าพวกตนนั้นได้มีการจ่ายเงินเพื่อซื้อบริการทางเพศ
และ 60% ของพวกเขาแจ้งว่าประเทศไทยเป็นประเทศในตัวเลือกของพวกเขา การสำรวจนี้ยังเปิดเผยค่านิยมที่น่าตกใจบางประการด้วย:
- ผู้ชายที่อายุน้อยกว่าเดินทางไปยังประเทศไทยเพื่อจุดประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับบริการทางเพศหรือค้าประเวณีโดยเฉพาะ อายุเฉลี่ยของผู้ชายกลุ่มนี้คือ 45 ปี
- มีตัวอย่างมากมายของพ่อและบุตรชายโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มาจากความสัมพันธ์หรือการแต่งงานที่ล้มเหลว เดินทางไปยังประเทศไทยเพื่อใช้วันหยุดเกี่ยวเนื่องกับกิจกรรมทางเพศ
ในที่ซึ่งนักวิจารณ์ในรายงานได้อธิบายว่าเป็น กิจกรรมกระชับความสัมพันธ์ ชนิดหนึ่ง
รายงานเหล่านี้เรียบเรียงมาจากนักสังคมสงเคราะห์ภายใต้การจ้างจากรัฐบาลสวีเดน ซึ่งพวกเขายังรายงานถึงความเสี่ยงของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
การสำรวจชิ้นล่าสุดนั้นเกี่ยวข้องกับตัวอย่างของผู้ชายชาวสวีเดนจำนวน 158 คนที่ได้ซื้อบริการทางเพศในกรุงเทพฯและพัทยา
นายเบงท์ ชายชาวสวีเดนที่มีภรรยาเป็นชาวไทยนั้นแสดงความกังวลเกี่ยวกับรายงานเหล่านี้ ความกังวลของผมคือหน่วยงานภาครัฐในสวีเดนไม่ควรเชื่อมเอาการท่องเที่ยวทางเพศ
เข้ากับแนวความคิดของผู้ชายสวีเดนที่กำลังมองหาความรัก ตอนนี้ผมเองก็ไม่ปฎิเสธว่าผู้ชายชาวสวีเดนอายุน้อยจำนวนมากเดินทางไปยังประเทศไทยเพราะเรื่องทางเพศและความสนุกสนาน
แต่ส่วนใหญ่ของผู้หญิงไทยที่แต่งงานกับผู้ชายชาวสวีเดน นั้นเป็นผู้หญิงที่มีเกียรติมีศักดิ์ศรี
พวกเธอไม่ใช่ผู้หญิงขายบริการ เขากล่าว
อย่างไรก็ตาม มีรายงานหลายชิ้นแสดงถึงผู้ชายชาวสวีเดนที่แต่งงานหรืออยู่ในความสัมพันธ์ระยะยาวกับผู้หญิงชาวไทยผู้ซึ่งเคยทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมทางเพศ และยังมีหลักฐานหนักแน่นที่ระบุว่า
มีผู้หญิงไทยจำนวนมากเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมทางเพศในสต็อกโฮล์ม ทั้งที่มีกฎหมายเกี่ยวกับเพศบังคับใช้อยู่ รวมถึงยังมีรายงานบางชิ้นระบุว่าผู้หญิงชาวไทยเดินทางเข้าประเทศเดนมาร์ก
เพื่อทำงานในอุตสาหกรรมทางเพศอีกด้วย
ผมจะบอกกับคุณว่าส่วนใหญ่ของผู้หญิงไทยที่มาประเทศสวีเดน นั้นรู้เรื่องราวเกี่ยวกับธุรกิจทางเพศพวกนี้น้อยมาก
และอาศัยอยู่ทั่วประเทศในพื้นที่เงียบสงบกับสามีของพวกเธอ มันทำให้ผมรู้สึกเศร้าใจทุกครั้งที่ได้ยินคนพูดเรื่องพวกนี้ตลอดเวลา เขากล่าว ผมต้องการให้การกระทำแย่ๆ ทุกอย่างที่ทำต่อผู้หญิงไทยนั้นหยุดลงได้แล้ว
นายเบงท์รู้สึกว่ารายงานและการสืบสวนจำนวนมากมีความมุ่งหมายที่จะบิดเบือนความจริงของผู้หญิงชาวไทยที่ลงหลักปักฐานกับผู้ชายชาวสวีเดน
ความคิดเห็นของเขาดูเหมือนจะได้รับการรองรับโดยการวิจัยในเร็วๆ นี้ภายใต้การดำเนินงานโดยสถาบันทางการศึกษาในสต็อกโฮล์ม ที่ซึ่งดูเหมือนว่าจะปฏิเสธการอ้างอิงโดยทั่วไปว่า
ผู้หญิงไทยที่เดินทางไปยังประเทศสวีเดนเพื่อการแต่งงานนั้นกำลังถูกหลอกใช้ หรือถูกนำไปยังอุตสาหกรรมทางเพศโดยทั่วไป มีหลักฐานแสดงถึงการเติบโตขึ้นของชุมชน
ผู้หญิงไทยในประเทศสวีเดน พร้อมด้วยความสัมพันธ์ที่พัฒนาขึ้นจากทางออนไลน์และผ่านปากต่อปาก
ในช่วงหลายปีหลังมานี้
โชคร้ายสำหรับนายเบงท์และภรรยาชาวไทย มีส่วนที่เหลื่อมกันอยู่เล็กน้อยระหว่างจำนวนอันมากมายของผู้หญิงไทยที่เดินทางไปยังนานาประเทศทั่วโลกเพื่อการสานต่อความสัมพันธ์ที่แท้จริง
และการซื้อขายแลกเปลี่ยนทางเพศที่น่ารังเกียจ
หน่วยงานภาครัฐนั้นมีทั้งขอบเขตหน้าที่และขอบเขตทางศีลธรรมเพื่อดำเนินการสืบสวนและลดความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้ต่อผู้หญิงไทยหรือผู้ชายสวีเดนผ่านโครงการวีซ่ารัฐบาล, กฎระเบียบ
และการจับตามองอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จอันเติบโตขึ้นของชุมชนชาวไทยในประเทศสวีเดนและการศึกษาอันครอบคลุมที่กำลังอยู่ภายใต้การดำเนินงานในสต็อกโฮล์มนั้น
จะช่วยในการจดจำความมีคุณค่าของความสัมพันธ์ระหว่างผู้หญิงไทยและผู้ชายสวีเดน.